วามเป็นมา และวิวัฒนาการของกระจกลามิเนต (Laminated Glass)
ต่อมาในปี 1902 บริษัท Le Carbone ของฝรั่งเศสได้รับสิทธิบัตรในการเคลือบวัตถุที่เป็นแก้วด้วยเซลลูลอยด์เพื่อป้องกันการบิ่นหรือแตก
ในขณะเดียวกัน ในปี 1905 จอห์น โครวูด ทนายความในสวินดอน-วิลต์เชียร์ ประเทศอังกฤษ ได้จดสิทธิบัตร กระจกลามิเนต สำหรับใช้เป็นกระจกบังลม และชั้นกระจกของกระจกบังลมเคลือบด้วยน้ำมันสนหรือยาหม่องน้ำมันสน ซึ่งเป็นน้ำมันสนชนิดหนึ่งที่ทำจากเรซินของต้นเฟอร์อเมริกาเหนือ (abies balsamea) มันจะไม่ตกผลึกหลังจากการอบแห้งและมีอายุการใช้งานยาวนาน และมีคุณสมบัติทนความร้อน ดังนั้นใน พ.ศ. 2449 จึงได้ก่อตั้งบริษัท Safe Motor Screen เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตน
ตั้งแต่นั้นมา กระบวนการผลิตก็พัฒนาไปหลายครั้ง จนสามารถผลิตกระจกลามิเนตผ่านชั้นกระจกสองชั้นได้ หรือมากกว่านั้น อบด้วยความร้อน ประกบระหว่างแก้วด้วยโพลีไวนิล บิวทิรัล หรือเอทิลีน ไวนิล อะซิเตต หรือ EVA
แล้วนำไปผ่านกระบวนการรีดด้วยลูกกลิ้งเพื่อให้ฟิล์ม PVB ติดกับ Menu กระจก tempered glass หลังจากนั้น กระจกที่ถูกผูกมัดจะถูกอบในเตาอบที่ควบคุมอุณหภูมิ และแรงดันที่เหมาะสมเพื่อไล่อากาศออกให้หมด ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่พัฒนาต่อยอดมาจนถึงทุกวันนี้
กระจก(Laminated Glass) คืออะไร…?
กระจกเป็นกระจกนิรภัยชนิดหนึ่ง เมื่อแตกแล้วเศษแก้วจะเกาะติดกันโดยไม่หลุด เพราะมีแผ่นฟิล์มบาง ๆ ติดอยู่ระหว่างแผ่น กระจก นิรภัย เท ม เปอร์ เหมือนใยแมงมุม นำกระจกนิรภัย (Tempered Safe Glass) กระจกลามิเนต หรือกระจกธรรมดา (Annealed Glass / Floated Glass) สองชิ้นขึ้นไปมาประกบกันโดยมีฟิล์มกั้นระหว่างกัน ดังนั้นเราจึงเรียกกระจกที่ผ่านการบำบัดว่ากระจก
ส่วนประกอบของกระจก (Laminated Glass Raw Material)
กระจกลามิเนต เป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ หรือประกบกระจกธรรมดา 2 ชิ้นขึ้นไปด้วยฟิล์ม PVB (โพลีไวนิลบิวทิรัล) หรือ EVA (เอทิลีนไวนิลอะซีเตต) ระหว่างแผ่นกระจกเพื่อ “เคลือบ” เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย และตอบสนองการใช้งานในด้านความปลอดภัยสูงกว่ากระจกประเภทอื่นๆ จากนั้นใช้ลูกกลิ้งเพื่อทำให้ฟิล์ม PVB ติดกับกระจก หลังจากนั้น กระจกที่ถูกผูกมัดจะถูกทำให้แห้งในเตาอบ Auto Clave ที่มีการควบคุมอุณหภูมิ และแรงดันที่เหมาะสมเพื่อไล่อากาศออกให้หมดซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของกระบวนการผลิต